ประวัติศาสตร์กาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าเที่ยวมากเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรม ประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลก โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องราวกำเนิดจังหวัดกาญจนบุรี วัดกาญจนบุรี มีประวัติความเป็นมาอย่างไร? มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ตามเรามาทำความรู้จักกับเมืองกาญจน์
35 ที่เที่ยวกาญจนบุรี เที่ยวได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ!
กาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศรองจากจังหวัดนครราชสีมาและเชียงใหม่ อีกทั้งยังมีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ ทำให้ที่นี่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในสมัยอยุธยาเพราะเป็นเส้นทางผ่านของทัพพม่าในสมัยก่อน
ขอมโบราณ กาญจนบุรี
แต่ก่อนอื่นเราต้องการนำอดีตให้ไกลยิ่งขึ้น เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรี มีเรื่องราวมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และในสมัยทวาราวดีได้มีการค้นพบซากโบราณที่อำเภอสังขละบุรี เป็นเจดีย์คล้ายจุลปะโทนเจดีย์ในจังหวัดนครปฐม
มีการพบโบราณวัตถุเป็นพระพิมพ์สมัยทวาราวดีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการค้นพบปราสาทเมืองสิงห์ซึ่งมีศิลปะแบบขอมสมัยบายนและค้นพบตะเกียงโรมันสำริดที่มีอายุราว 600 ปีก่อนคริสตกาล และถือเป็นโบราณวัตถุที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ทำให้เราพอจะพูดได้ว่ากาญจนบุรีเป็นอีกเมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีต และมีการติดต่อค้าขายในสมัยที่อินเดียเดินทางมาทำธุรกิจและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ระหว่างพุทธ ศตวรรษที่ 11-16
ประวัติศาสตร์กาญจนบุรี ยุคขอมโบราณ
ในพงศาวดารเหนือ ประวัติศาสตร์กาญจนบุรี เป็นหลักฐานเก่าแก่ที่สุดที่กล่าวถึงเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรีเป็นเมืองพญากง สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1350 เป็นเมืองสำคัญของแคว้นอู่ทอง ต่อมาขอมได้แผ่อิทธิพลและรับเอาพระพุทธศาสนามหายานเข้ามาในเมืองกาญจน์ หลักฐานสำคัญ คือ ปราสาทเมืองสิงห์ เมืองครุฑ เมืองกลอนโด จนกระทั่งอำนาจขอมเสื่อมลง
สงครามกับพม่าสมัยกรุงศรีอยุธยา ด่านเจดีย์สามองค์
มาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา กล่าวได้ว่า เมืองกาญจนบุรีมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในฐานะเมืองหน้าด่านนั่นเองค่ะ เนื่องจากกาญจนบุรีมีพรมแดนติดกับพม่าทำให้ที่นี่เป็นสมรภูมิรบและเป็นเส้นทางเดินทัพของกองทัพพม่าที่จะมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง
ด้วยการตั้งเมืองกาญจน์ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาริมแม่น้ำแควใหญ่จึงเหมาะที่จะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการสกัดกั้นพม่าที่เข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์เพื่อยกทัพมาตีเมืองสุพรรณบุรีและกรุงศรีอยุธยา จึงจำเป็นต้องผ่าน ผ่านกาญจนบุรี. และเข้าตีเมืองกาญจน์ก่อน
ในสมัยอยุธยา สงครามกับพม่ากำลังดำเนินอยู่ และเมืองกาญจน์ได้เข้าร่วมสงครามหลายครั้ง ครั้งสำคัญที่สุดคือระหว่างการล้อมกาญจนบุรีครั้งที่ 2 เพื่อเป็นทางผ่านของกองทัพพม่าในระหว่างทาง ด่านเจดีย์สามองค์และไม่สามารถสกัดทัพได้ทันจนกองทัพพม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาจนต้องเสียกรุงเป็นครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310
สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กาญจนบุรี
เมื่อมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี ยังคงเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ มีสงครามที่สำคัญเกิดขึ้นคือสงคราม 9 ทัพในสมัยรัชกาลที่ 1 และนำไปสู่สงครามท่าดินแดงในปี พ.ศ. 2329
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 มีรูปแบบการปกครองใหม่ เทศาภิบาลกาญจนบุรีได้โอนไปขึ้นกับราชบุรีและยกฐานะเป็นจังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2467
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของสงครามที่กาญจนบุรียังคงดำเนินต่อไปในภายหลังซึ่งเรารู้จักกันดีในชื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสงครามมหาเอเชียบูรพา เริ่มนโยบายชาตินิยมโดยใช้คำขวัญว่า Asia for Asians และประกาศระเบียบใหม่ในเอเชีย เป้าหมายคือยึดครองจีนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เคยเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกนั่นเอง
จักรวรรดิญี่ปุ่นรุกรานประเทศไทย รัฐบาลไทยยอมจำนนภายใน 24 ชั่วโมงหลังการรุกรานของญี่ปุ่น และลงนามเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2484
ทางรถไฟสายมรณะ
ญี่ปุ่นตัดสินใจสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์จากชุมทางหนองปลาดุกที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ถึงกาญจนบุรี ข้ามแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อยถึงด่านเจดีย์สามองค์และปลายทางถึงเมืองทันบูซายัตในพม่า
โดยมีเชลยศึกอังกฤษ ออสเตรเลีย ดัตช์ และอินโดนีเซียเกณฑ์กว่า 60,000 คน และแรงงานจำนวนมาก ทั้งชาวมาเลย์ อินเดีย จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า และไทย รวมประมาณ 200,000 คน เร่งสร้างทางรถไฟจนกระทั่ง ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากและด้วยเส้นทางคดเคี้ยวไปตามหน้าผาทำให้คนไทยเรียกว่า “ทางรถไฟสายมรณะ”
เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นที่ระลึกถึงโลกที่จารึกความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 และรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม
ปัจจุบันทางรถไฟสายนี้ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตกซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และธรรมชาติซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดให้เดินรถในเส้นทางนี้ทุกวัน และจัดขบวนรถพิเศษสายกรุงเทพฯ-น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม
ไฮไลท์ของทัวร์อยู่ที่ช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแควและโค้งมรณะหรือถ้ำกระแซซึ่งเป็นสะพานโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อยยาวประมาณ 400 เมตร
คำขวัญจังหวัดกาญจนบุรี
แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่ น้ำตก
บทสรุป
นอกจากนี้กาญจนบุรียังมีวัดวาอารามและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่สวยงามอีกมากมาย ประวัติศาสตร์กาญจนบุรี ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่ วัดถ้ำเสือ, โบสถ์สแตนเลส, วัดปากลำขาแข้ง, บ้านอีต่อง, สะพานมอญ สังขละบุรี, สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์คและแคมป์, บ่อพลอย, เมืองมัลลิกา, รศ. 124 และที่พักแพริมแม่น้ำ หนาว. ให้เราได้เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติแบบชิลๆ อีกด้วย
ใครที่อยากหาที่เที่ยวในวันหยุดว่างๆ แวะมาชิลล์ ชื่นชมธรรมชาติอันเขียวขจี หรือ อยากมารำลึกเรื่องราว ศึกษาประวัติศาสตร์ต่างๆ แล้ว กาญจนบุรีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย